
การเลือกใช้ประตูสแตนเลสกำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากความทนทาน การดูแลรักษาง่าย และดีไซน์ที่ทันสมัย บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับ ประตูสแตนเลส ตารางเมตรละ พร้อมปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา และ วิธีเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ
ประตูสแตนเลส ตารางเมตรละ ราคาเท่าไหร่? ปัจจัยที่มีผลต่อราคา

ปัจจัยที่ส่งผลต่อ ราคา ประตูสแตนเลส ตารางเมตรละ
- ความหนาของสแตนเลส : ความหนามีผลต่อราคามาก ยิ่งหนายิ่งแพง
- รูปแบบและดีไซน์ : ลวดลายพิเศษหรือแบบสั่งทำพิเศษจะมีราคาสูงกว่า
- ขนาดของประตู : ประตูบานใหญ่ใช้วัสดุมากกว่า ราคาจึงสูงขึ้น
- อุปกรณ์เสริม : มือจับ กลอน และบานพับคุณภาพสูง มีผลต่อราคา
- ค่าติดตั้ง : หากต้องการติดตั้งโดยช่างมืออาชีพ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ปัจจัย | รายละเอียด | ผลต่อราคา |
ความหนาของสแตนเลส | มีให้เลือกหลายระดับ | หนามาก ราคาสูงขึ้น |
ดีไซน์ | แบบเรียบ VS แบบลวดลาย | ลวดลายพิเศษแพงกว่า |
ขนาด | บานเล็ก VS บานใหญ่ | บานใหญ่ใช้วัสดุเยอะ |
อุปกรณ์เสริม | มือจับ บานพับพิเศษ | เพิ่มความปลอดภัยแต่เพิ่มต้นทุน |
รับทำประตูสแตนเลส พร้อมติดตั้ง บริการครบจบในที่เดียว

บริการที่คุณจะได้รับ
- การออกแบบประตูตามความต้องการ
- วัสดุคุณภาพสูงเกรด 304 ป้องกันสนิม
- การติดตั้งโดยช่างมืออาชีพ
- รับประกันคุณภาพหลังการติดตั้ง
เหตุผลที่ควรเลือกใช้บริการครบวงจร
- ประหยัดเวลา ไม่ต้องติดต่อหลายเจ้า
- ได้คุณภาพมาตรฐานตั้งแต่ผลิตถึงติดตั้ง
- บริการให้คำแนะนำก่อน และ หลังการติดตั้ง
ข้อดีของการใช้ประตูสแตนเลส สำหรับบ้านและอาคาร

- ทนทานต่อสภาพอากาศ ไม่ขึ้นสนิมง่าย
- ไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อย
- ดีไซน์หลากหลาย ตกแต่งบ้านได้ทุกสไตล์
- ให้ความรู้สึกหรูหรา และ ทันสมัย
วิธีเลือกประตูสแตนเลส ตารางเมตรละ ให้เหมาะกับสไตล์และการใช้งาน

ปัจจัยที่ต้องพิจารณา
- ขนาด และ พื้นที่ติดตั้ง
- สไตล์บ้านที่ต้องการ
- ฟังก์ชันการใช้งาน เช่น ประตูบานเลื่อนหรือบานพับ
- งบประมาณ
ประตูสแตนเลส มีกี่แบบ? เปรียบเทียบรูปแบบยอดนิยม

ประเภทประตู | คุณสมบัติ | เหมาะกับการใช้งาน |
ประตูบานพับ | เปิดปิดได้สะดวก | บ้านทั่วไป ร้านค้า |
ประตูบานเลื่อน | ประหยัดพื้นที่ | โรงจอดรถ อาคารพาณิชย์ |
สั่งทำ ประตูสแตนเลส กับช่างมืออาชีพ มั่นใจคุณภาพ

ทำไมต้องเลือกช่างมืออาชีพ?
- มีประสบการณ์ และ ความเชี่ยวชาญ
- ใช้วัสดุคุณภาพสูง
- ติดตั้งได้มาตรฐาน ไม่เกิดปัญหาภายหลัง
การดูแลและบำรุงรักษาประตูสแตนเลส ให้ใช้งานได้นาน

วิธีดูแลรักษา ประตูสแตนเลส
- ใช้น้ำสบู่ทำความสะอาดเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแรงๆ
- ตรวจสอบอุปกรณ์เสริม เช่น บานพับ และ กลอนให้อยู่ในสภาพดี
สรุป

ประตูสแตนเลส ตารางเมตรละ เป็นตัวเลือก ที่คุ้มค่า และ มีความทนทานสูง เหมาะสำหรับบ้านและอาคารทุกประเภท หากต้องการสั่งทำพร้อมติดตั้ง ควรเลือกใช้บริการจากมืออาชีพเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุด
ทางเรา พิศเพ็ง รางน้ำสแตนเลส ขอแนะนำคุณสมบัติทั่วๆไปของสแตนเลส
สแตนเลสเกรด 304 ประกอบไปด้วยธาตุหลักดังนี้
- โครเมียม (Chromium) 18-20% – ช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนและป้องกันสนิม
- นิกเกิล (Nickel) 8-10.5% – เพิ่มความแข็งแรง ทนต่อการเกิดสนิม และทำให้สแตนเลสไม่เป็นแม่เหล็ก
- คาร์บอน (Carbon) สูงสุด 0.08% – ช่วยเพิ่มความแข็งแรง แต่ต้องอยู่ในปริมาณต่ำเพื่อป้องกันการเกิดสนิมตามขอบเกรน
- แมงกานีส (Manganese) สูงสุด 2% – ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความเหนียว
- ซิลิกอน (Silicon) สูงสุด 1% – ช่วยเพิ่มความทนทานต่ออุณหภูมิสูง
- ฟอสฟอรัส (Phosphorus) สูงสุด 0.045% – ปริมาณน้อยเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรง
- กำมะถัน (Sulfur) สูงสุด 0.03% – ปริมาณต่ำเพื่อป้องกันการเปราะของวัสดุ
คุณสมบัติเด่นของ **สแตนเลส 304** คือทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิมง่าย และมีความเงางาม เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสะอาด และ ความทนทาน เช่น งานก่อสร้าง อุตสาหกรรมอาหาร และการติดตั้งรางน้ำฝน
สแตนเลสเกรด 201 เป็นสแตนเลสกลุ่มออสเทนนิติกที่มีส่วนผสมของธาตุหลักดังนี้
- โครเมียม (Chromium) 16-18% – ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน
- แมงกานีส (Manganese) 5.5-7.5% – ใช้แทนนิกเกิลบางส่วนเพื่อช่วยลดต้นทุน และ เพิ่มความแข็งแรง
- นิกเกิล (Nickel) 3.5-5.5% – น้อยกว่าสแตนเลส 304 ทำให้ต้านทานการกัดกร่อนต่ำกว่า
- คาร์บอน (Carbon) สูงสุด 0.15% – เพิ่มความแข็งแรงแต่หากสูงเกินไปอาจทำให้เปราะง่าย
- ซิลิกอน (Silicon) สูงสุด 1% – เพิ่มความทนทานต่ออุณหภูมิสูง
- ฟอสฟอรัส (Phosphorus) สูงสุด 0.06% – ปริมาณเล็กน้อยเพื่อเสริมความแข็งแรง
- กำมะถัน (Sulfur) สูงสุด 0.03% – อยู่ในปริมาณต่ำเพื่อป้องกันการเปราะ
สแตนเลส 201 ไม่ทนต่อการเกิดสนิมเท่ากับสแตนเลส 304 โดยเฉพาะเมื่อนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น หรือ ไอเค็มสูง จึงเหมาะกับการใช้งานภายในอาคาร หรือ พื้นที่ที่ไม่ได้สัมผัสกับสารเคมีรุนแรง
ส่วนประกอบหลักของสแตนเลส 316 ได้แก่
- เหล็ก (Iron – Fe): เป็นส่วนประกอบหลักของสแตนเลสเกรด 316 ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้มันมีความแข็งแรง
- โครเมียม (Chromium – Cr): ประมาณ 16 – 18% ช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนและทำให้สแตนเลสมีความทนทานต่อการเกิดสนิม
- นิกเกิล (Nickel – Ni): ประมาณ 10 – 14% ช่วยเพิ่มความคงทนต่อการกัดกร่อนและความทนทานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
- โมลิบดีนัม (Molybdenum – Mo): ประมาณ 2-3% ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อนโดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีคลอไรด์ (เช่น น้ำทะเล)
- แมงกานีส (Manganese – Mn): ประมาณ 2% ใช้เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของสแตนเลส
- ซิลิกอน (Silicon – Si): ประมาณ 0.75% ใช้เพื่อเพิ่มความทนทานต่อ การออกซิเดชันที่อุณหภูมิสูง
- คาร์บอน (Carbon – C): มักจะมีปริมาณต่ำ (ไม่เกิน 0.08%) เพื่อไม่ให้ความสามารถในการต้านการกัดกร่อนลดลง
ส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดในสแตนเลสเกรด 316 คือ โมลิบดีนัม ( Mo ) ซึ่งทำให้สแตนเลสเกรดนี้มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี และ น้ำทะเลที่มักจะทำให้สแตนเลสเกรดอื่น ๆ เกิดการกัดกร่อนได้ง่าย.
สแตนเลสเกรด 316 เป็นสแตนเลสที่มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนสูง แล ะมีความคงทนต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น หรือ สารเคมี สแตนเลสเกรดนี้เหมาะสำหรับ การใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการความต้านทานต่อการกัดกร่อน และ การสึกหรอ เช่น ในอุตสาหกรรมเคมี อาหาร ยา หรือ แม้แต่ในงานสถาปัตยกรรมกลางแจ้ง